M1 Garand
เป็นปืนที่ฝ่ายสหรัฐใช้เป็นอาวุธประจำกายในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ถึงสงครามเวียดนามเป็นอาวุธที่มีความแม่นยำสูงมากแต่ก็มีจุดเด่นที่น่ากลัวคือเมื่อทำ การยิงจนกระสุนหมดในการยิงนัดสุดท้ายปืนจะทำการดีดตลับกระสุนออกมาทำให้มี เสียงดังพิ้งซึ่งจะบอกตำแหน่งของผู้ยิงได้ ปืนนี้สามารถเสริมอุปกรณ์พิเศษได้อย่างดาบปลายปืนกล้องเล็งหรือลูกระเบิดแต่ การยิงลูกระเบิดต้องอาศัยกระสุนเปล่า 1 นัดในการช่วยยิงด้วย
M1 Carbine
ปืนนี้เป็นปืนไรเฟิลกึ่งอัตโนมัติและมีหลายรุ่นทั้งแบบพานท้ายพับได้มี น้ำหนักเบาเหมาะสำหรับเหล่าพลร่มมีความแม่นยำสูงแต่มีความรุนแรงต่ำกว่าปืนแบบ อื่นแต่ก็ชดเชยด้วยความเล็ก น้ำหนักเบา
M1 Thompson
ปืนกลมือ Thompson ถูกผลิตมาก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 จะเกิดทำให้กองทัพในตอนนั้นไม่สนใจในการใช้ในช่วงแรก ปืนนี้ถูกใช้ในกลุ่มมาเฟียแต่พอสงครามโลกครั้งที่ 2 เกิดขึ้นทางกองทัพจึงนำมันมาใช้มันเป็นปืนที่น้ำหนักเบามีการยิงกระสุนได้เร็วแต่ความแม่นยำไม่มากและมีการส่ายของลำกล้องสูงมาก เวลายิงเร็วๆ
M1918 BAR
ปืนชนิดนี้เป็นปืนสนับสนุนของเหล่าหมู่ปืนเป็นปืนที่มีผลิตมาใช้ในสงครามโลก ครั้งที่ 1 แต่ทางกองทัพให้ความเห็นว่ามันเป็นปืนที่มีความยอดเยี่ยมมากในสมัย นั้นจึงไม่สามารถให้มันตกไปอยู่ในมือของฝ่ายข้าศึกได้ปืนนี้จึงถูกเก็บไว้ ก่อนจนสงครามโลกครั้งที่2ระเบิดขึ้น ปืนนี้จึงถูกนำมาใช้มันมี น้ำหนักมากและบรรจุกระสุนได้น้อยและมีความเร็วในการยิงมากทำให้กระสุน
M1903 Springfield
ปืนกระบอกนี้ถูกใช้ตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 1 เป็นปืนที่มีความแม่นยำสูงมากๆแต่บรรจุกระสุนได้น้อยจึงไม่สามารถจัดการข้าศึกทีละมากๆได้และในสงครามโลกครั้งที่ 2 ปืนนี้จะใช้โดยพลแม่นปืนซะเป็นส่วนมาก
M3 Supmachine gun
ปืนกล M3 เป็นปืนที่ทหารอเมริกันประจำการนานมากถึง 36 ปี ตั้งแต่ปี 1944 - 1980 และเป็นปืนที่มีความนิยมใช้กันในหน่วยพลร่ม หน่วย Ranger ,Green Beret และทหารนาวิกโยธินของฝ่ายสหรัฐฯรวมทั้งหน่วย SAS ของอังกฤษ ถูกใช้ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 สงครามเกาหลี และสงครามเวียดนาม ปัจจุบันถูกแทนที่ด้วยปืนกลมือ UZI และ H&K MP5-SD
M1911
ปืนพกยอดนิยม ถูกประจำการครั้งแรกในสงครามฟิลิปปินและมาถึงปัจจุบัน ด้วยกระสุนขนาด.45ACP ที่ีมีอำนาจการหยุดหยั้งค้อนข้างสูง
BAZOOKA
ปืนต่อต้านรถถังของฝ่ายสหรัฐอเมริกา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น